วิธีการเลือกกลุ่มเป้าหมาย Facebook Audience อัปเดต 2025
กลุ่มเป้าหมายใน Facebook Ads คือการกำหนดว่า “ใคร” ที่คุณต้องการให้เฟสบุ๊คแสดงโฆษณาของคุณให้กลุ่มคนเหล่านั้นเห็น โดยมีวิธีการเลือกทั้งหมด 3 รูปแบบคือ Core Audience, Custom Audience และ Lookalike Audience
เราจะพาไปทำความรู้จักกับกลุ่มเป้าหมายทั้งสามแบบ พร้อมแนะนำวิธีการเลือกใช้กลุ่มเป้าหมายแต่ละแบบให้เจาะกลุ่มเป่าหมายได้ตรงกลุ่ม เกิดยอดขายจริง และหยุด “ผลาญ” เงินยิงแอด Facebook เพราะเลือกกลุ่มเป้าหมายผิด ที่คุณก็อาจทำพลาดอยู่โดยไม่รู้ตัว
Core Audience (กลุ่มเป้าหมายหลัก)
การสร้างกลุ่มเป้าหมายด้วยข้อมูลที่เจาะจง โดยให้เลือกข้อมูลที่ตรงกับลูกค้าของเรามากที่สุดผ่านตัวเลือก 3 ประเภท คือ Demographics (ข้อมูลประชากร), Interests (ความสนใจ), พฤติดรรม (Behaviours)

เหมาะสำหรับ : เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการสำรวจหาลูกค้าใหม่ ที่ไม่มีฐานลูกค้าปัจจุบัน
ดูคลิปสอนการตั้งค่าและอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Core Audience
Custom Audience (กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง)
สำหรับ Custom Audience (กลุ่มเป้าหมายกำหนดเอง) คือกลุ่มเป้าหมายที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจของคุณมาก่อนทั้งทาง ออฟไลน์และออนไลน์ เช่น คนที่กด Like Page, คนที่เคยเข้าชมเว็บไซต์, คนที่เคยทักข้อความมาหาเรา คนที่ดูคลิปวิดีโอที่เรา หรือรายชื่อฐานลูกค้าเก่าของเราเป็นต้น โดยสามารถยิงโฆษณาซ้ำ หรือเจาะจงกลับไปหาคนเหล่านั้นได้ หรือที่เรียกว่า Remarketing โดยสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายได้จากแหล่งข้อมูลหลากหลายดังนี้

เหมาะสำหรับ : เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว ต้องการกระตุ้นให้เขากลับมาซื้อ
ดูคลิปสอนการตั้งค่าและอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Custom Audience
Lookalike Audience (กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน)
Lookalike Audience คือการให้ Facebook หา “ลูกค้าใหม่” ที่มีพฤติกรรมคล้ายกับ Custom Audience ที่เราสร้าง (ต้องสร้าง Custom Audience ก่อนถึงสามารถทำ Lookalike Audience ได้) เช่น ลูกค้าเก่าที่เคยซื้อของ, คนที่เคยเข้าชมเว็บไซต์, คนที่กด Like Page ของเรา ฯลฯ
โดยเริ่มจากการเลือกแหล่งที่มาที่คล้ายกัน (เลือก Custom Audience) เช่น กลุ่มคนที่เคยเข้าเว็บหรือเคยซื้อของ และกำหนดขนาดกลุ่ม (เช่น 1% = คล้ายมากแต่คนน้อย, 10% = คล้ายน้อยแต่คนเยอะ) ยิ่งคล้ายมาก โฆษณายิ่งแม่น ช่วยขยายลูกค้าใหม่ที่มีแนวโน้มจะสนใจแบรนด์คุณเหมือนลูกค้าเก่า ที่เราเลือกมาทำ Lookalike Audience

เหมาะสำหรับ : เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีฐานข้อมูลจากกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและต้องการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน
รวมข้อผิดพลาดทำแอดพัง เพราะสร้างกลุ่มเป้าหมายผิด
การกำหนดหลุ่มเป้าหมายที่แคบเกินไป
การกำหนดหลุ่มเป้าหมายที่แคบเกินไปนั้นอาจส่งผลให้แอดไม่รันหรือถึงสามารถรันได้ก็อาจไม่สามารถเกิดยอดขายหรือเป้าหมายที่เราต้องการ รวมถึงทำให้ค่าโฆษณานั้นแพงกว่าปกติ โดยแนะนำว่าพยายามให้ขนาดกลุ่มเป้าหมายเยอะกว่า 100,000 เป็นอย่างต่ำ เพื่อให้ระบบของ Facebook นั้นสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่มากที่สุด

สร้างกลุ่มเป้าหมายซ้ำซ้อน
อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องระวังคือการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่ซ้ำซ้อนกันโดยไม่รู้ตัว นอกจากจะเสียเงินโฆษณาซ้ำซ้อนเพื่อยิงแอดไปหาคนเดิมที่อาจไม่เกิดยอดแล้ว หากรันแอดสองกลุ่มเป้าหมายที่ซ้ำซ้อนพร้อมกันอาจทำให้สองกลุ่มนี้แข่งกันเองทำให้ค่าโฆษณาสูงขึ้นตาม
เราสามารถเช็คการทับซ้อนของกลุ่มเป้าหมายของเราเองได้ตามภาพด้านล่าง โดยอย่างน้อยไม่ควรให้การซ้อนทับกันเกิน 50%

รูปโฆษณาไม่ตอบโจทย์
โฆษณาไม่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น ภาพ ข้อความ หรือข้อเสนอไม่โดนใจ ส่งผลให้คนไม่คลิก ไม่สนใจ แม้จะเป็นกลุ่มเป้าหมายถูกต้องก็ตาม ลองนึกภาพว่าคุณยิงโฆษณาร้านอาหารของคุณใช้รูปข้าวผัดกระเพรา แต่การจัดจาน การวางอาหารของคุณในรูปโฆษณานั้นไม่น่ากิน ต่อให้ยิงแม่นไปหาคนที่ชอบกินข้าวกระเพรา แต่มันดูไม่น่ากิน ยิงให้ตายยังไงเขาก็ไม่ซื้อคุณ
Exclude ไม่เป็น
เพราะทุกการแสดงผลโฆษณาของคุณใน Facebook มีค่าใช้จ่ายเสมอ แล้วเราจะเสียเงินแสดงโฆษณาให้คนที่เคยซื้อของเราแล้วดูทำไมใช่ไหม? การกรองหรือ exclude คนที่เคยซื้อสินค้าของเราแล้วออกนั้น จะช่วยให้เราไม่เสียเงินเปล่ากับการโฆษณาซ้ำๆกับคนเดิมๆ และให้เงินได้ใช้ไปกับการไปหาลูกค้าใหม่ๆ
